
https://www.thairath.co.th/news/politic/2011617
ผมอ่านเรื่อง เมื่อเหลืองแดงแรงฤทธิ์ ในงานจิตรกรรมไทย ที่นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว เขียนไว้ในหนังสือ จารึกของแผ่นดิน (สำนักพิมพ์ศยาม พ.ศ.2562) ไม่อยากนึกว่าสถานการณ์ตอนนั้น เหมือนสถานการณ์สงครามโควิด-19 ตอนนี้ ไม่มีผิดเพี้ยน
ขอลองคัดย่อตัดต่อเรื่องที่เธอเขียนไว้ยาวๆให้สั้น ตั้งใจให้อ่านรู้เรื่อง
เรื่องราวชีวิตชาวบ้าน การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ช่างเมืองเพชรบุรีทุกรุ่นไม่เคยละเลยให้รอดพ้นสายตา ครูช่างหลายคนต่างทำหน้าที่บันทึกข้อมูล สื่อสารออกมาเป็นจดหมายเหตุทางสังคม กันอย่างแข็งแรง
สมัยอยุธยา มีปูนปั้นรูปฝรั่งต่างชาติ จมูกโด่งผูกผ้าพันคอชัดเจน แทรกอยู่ระหว่างรูปยักษ์แบกฐานเสมาวัดสระบัว แสดงทัศนคติต่อฝรั่ง เป็นคนตัวเหม็น สูงเทอะทะ หยาบช้า เป็นเดียรถีย์ต่ำชั้นนอกพุทธศาสนา
จิตรกรรมฝาผนังวัดเกาะแก้วสุทธาราม เขียนเมื่อ พ.ศ.2273 แผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ สี่สิบปีก่อนเสียกรุง ครูช่างวาดภาพพระเทวทัต ให้เป็นฝรั่งสวมจีวรใส่หมวกโคบาล ยืนอยู่กลางสาวก ฝรั่งอั้งม้อ
สมัย ร.5 จิตรกรรมฝาผนังวัดนาพรหม ครูช่างยังอัดฝรั่งไม่เลิก วาดภาพฝรั่งเหน็บมีดอีโต้ ขี่วัวทะยานอยู่ในกองทัพพระยามาร บุกรุกรานพระพุทธเจ้าในคืนตรัสรู้
ปี พ.ศ.2518 ครูช่างทองร่วง เอมโอษฐ์ ปั้นรูป นายกฯคึกฤทธิ์ ปราโมช แบกฐานพระวัดมหาธาตุ เป็นข่าวฮือฮาขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์
งานปูนปั้นประดับศาลาบุญประคอง ยังมีภาพนักศึกษามือเปล่าสู้กับทหารถือปืน และเหตุการณ์วันที่ 14 ต.ค.2516 มีภาพตอกอกนักศึกษา เหตุการณ์ 6 ต.ค.2519
ปี พ.ศ.2555 มีภาพจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์ วัดหนองปืนแตก ไกลไปถึงชายแดนเมืองเพชรบุรี เรื่องพระมหาชนกตอนเรือแตก เรื่องราวในภาพมีแง่มุมหลากหลายน่าสนใจ จนนิพัทธ์พร เพ็งแก้ว ต้องตามไปดู
ช่างเขียนเน้นภาพ ลุงจำลองเสื้อเหลือง กับใครสักคนในแกนนำเสื้อแดง เกาะขอนไม้กอดคอกันลอยคว้างกลางพายุปั่นป่วน
ข้างๆ มีสัตว์ทะเลอ้าปากเห็นฟันเขี้ยวคมกริบ ตั้งท่าขบขย้ำ
นิพัทธ์พรนั่งนิ่งดูอยู่ชั่วอึดใจ ก็เห็นนัยที่ซ่อนเบื้องหลังภาพ จริงแท้ ไม่ว่าเหลืองหรือแดง จะเป็นฝักฝ่ายใด เราคนไทยล้วนอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน
คือ ประเทศกำลังจะล่มสลาย เมืองไทยกำลังแตกยับเยินทุกหย่อมหญ้า ด้วยปัญหาสารพัด
เรือลำนี้แตกแล้ว จะมีวิริยะบารมี ความพากเพียรหาหนทางใดเล่า ให้ทุกคนสามารถกอดคออยู่รอดร่วมกันต่อไปได้ ท่ามกลางสภาพรอบตัว ในภาพที่เขียนเป็นสัญลักษณ์อบายมุข การพนัน น้ำเต้า ปูปลา
ช่างน้อง แต่ตัวใหญ่ ชื่อ ธานินทร์ ชื่นใจ และเพื่อน รณภาพ ม่วงช่วง เขียนภาพนี้เมื่อวันที่ 15 เดือน 1 ปี 52 เคยได้คำแนะนำจาก ครูทองร่วง เอมโอษฐ์ ครูสำรวย เอมโอษฐ์ ว่า ควรให้ความหมายในภาพ ยุคนั้นเกิดอะไรในสังคม
ช่างน้องบอกว่า ไม่อยากให้มองว่าเหลืองแดงเป็นใคร อยากให้มองไปที่ความสามัคคีกันมากกว่า
นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว สรุปว่า จินตนาการของครูช่างเพชรบุรี ส่งต่อมาจากสมัยอยุธยา ด้วยความหวังและตั้งใจสื่อว่าเหลืองแดงแรงฤทธิ์ได้พยายามกอดคอกลางพายุคลื่นคลั่ง...จะสู้กับปัญหารอบตัวได้หรือไม่ จะด้วยหนทางใด
ย้อนไปอ่าน เจตนาของช่างน้อง...ผู้เขียนภาพเหลืองแดงกอดคอกลางพายุคลั่ง เรื่องเน้นที่ความสามัคคี อีกที
ผ่านเหตุการณ์เหลืองแดงครั้งนั้นมาแล้วกว่าสิบปี...ประเด็นเรื่องสีเปลี่ยนไปบ้าง แต่ปัญหาความสามัคคียังเหมือนเดิม.
กิเลน ประลองเชิง
6 ความเห็น
อนาถ
การที่ตำรวจเข้าจับกุมในยามวิกาล โดยไม่มีหมายจับ เป็นความผิดตาม กม.อยู่แล้ว.....ฟ้องกลับได้ไหม
ฟ้องศาลโดยตรง โดยไม่ต้องแจ้งความให้ถูกถ่วงเวลา
เด็ก ๆ โดนแบบนี้หลายต่อหลายครั้ง
อาจารย์,ทนายความ....ช่วยกันหาทางโต้กลับ ตำรวจ ที่ทำแบบนี้ ให้เด็ก ๆ หน่อยได้ไหม
ขืนปล่อยไว้ตำรวจก็จะได้ใจและคุกคามเด็ก ๆ ตลอด และนับวันมีแต่จะมากขึ้น จนไม่รู้ว่าเป็น ตำรวจ หรือ โจร กันแน่....จะอยู่กันแบบนี้หรือ
ขาเกือบพลิก
9 มกราคม เวลา 14:00 น.
· ถ้าถามว่ากินอาหารบนฟุตบาทได้ไหม หลายๆคนอาจคิดว่าแอด แบนขายของบนฟุตบาทหัวชนฝาไปแล้ว!! จริงๆ ไม่ใช่ครับ ตามความเห็นแอดมองว่าเรานั่งกินบนฟุตบาทได้ ถ้ามีพร็อพที่สวยงาม เป็นระเบียบ ไม่รบกวนคนเดินเท้า มันยิ่งช่วยให้เมืองมี "เสน่ห์" มีชีวิตชีวาที่แท้จริง มากขึ้นไปอีก! (ไม่ใช่เสน่ห์ปลอมๆที่เรียกกันทุกวันนี้) เมืองนอกนั้นเค้าก็นั่งฟุตบาทกินข้าวกันนะครับ ไม่ใช่แค่ข้างในร้าน แต่รูปแบบมันดูมีคลาสกว่ามาก เค้าจะไม่เอาโต๊ะเก้าอี้บ้านๆ หักๆ มาวาง อุปกรณ์ที่เอาออกโชว์ด้านนอก ดูดีพอควร และที่สำคัญมีขอบเขตชัดเจน ไม่ขวางทาง!!! ต้องเว้นระยะในคนเดิน และคนพิการกว้างพอ!! มีมาตรฐานชัดเจน จึงจะได้รับการอนุมัติจากทางเมืองให้มาตั้งร้านได้ ไม่มีใครมาโวยวายรังแกคนจน มีลูกออทิสติกต้องเลี้ยง ข้ออ้างใดๆ ถ้าจะตั้งครัวด้านนอก ต้องเป็นครัวปิด ไม่ใช่เอาหม้อใบ เตาแก๊สวางมาผัดฟุ้งกระจายกลางทาง เรื่องล้างจานนี่ลืมไปได้เลย กะละมังอะ พอกันที! พูดง่ายๆกว่า ไอที่เค้านั่งกินริมทาง คือการช่วยให้เมืองเค้าดูดี ชิคๆ ขึ้นไปอีก! ไม่ใช่ให้นั่งเพราะอยากได้ที่ฟรี ปากกัดตีนถีบ บอกตรงๆนะครับว่าฟุตบาทในประเทศไทย และกทม. มันยากมากๆ ที่จะให้นั่งได้ เพราะ 99% มันแคบ ตั้งร้านปุ๊บ ปิดทางแน่นอน คนต้องลงเดินถนน เพราะฉะนั้นแอดจึงไม่เคยสนับสนุนให้มานั่งกินอะไรบนฟุตบาท ผังเมืองห่วยแบบนี้แต่มีฟุตบาทไว้เดินก็ถือว่าบุญโขแล้ว Food Center เท่านั้นจังหวะนี้! นอกจากจะเวรคืนที่เพิ่มเนื้อที่ฟุตบาทให้กว้าง แล้วค่อยมาขาย ถ้าอยากจะเป็นเมือง "street" food ไม่ใช่ foot on street เหมือนทุกวันนี้! สำนักงานเขตจตุจักร
#ขาเกือบพลิก
ปี พ.ศ.2555 มีภาพจิตรกรรมฝาผนังโบสถ์ วัดหนองปืนแตก ไกลไปถึงชายแดนเมืองเพชรบุรี เรื่องพระมหาชนกตอนเรือแตก เรื่องราวในภาพมีแง่มุมหลากหลายน่าสนใจ จนนิพัทธ์พร เพ็งแก้ว ต้องตามไปดู
ช่างเขียนเน้นภาพ ลุงจำลองเสื้อเหลือง กับใครสักคนในแกนนำเสื้อแดง เกาะขอนไม้กอดคอกันลอยคว้างกลางพายุปั่นป่วน
ข้างๆ มีสัตว์ทะเลอ้าปากเห็นฟันเขี้ยวคมกริบ ตั้งท่าขบขย้ำ
นิพัทธ์พรนั่งนิ่งดูอยู่ชั่วอึดใจ ก็เห็นนัยที่ซ่อนเบื้องหลังภาพ จริงแท้ ไม่ว่าเหลืองหรือแดง จะเป็นฝักฝ่ายใด เราคนไทยล้วนอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน
คือ ประเทศกำลังจะล่มสลาย เมืองไทยกำลังแตกยับเยินทุกหย่อมหญ้า ด้วยปัญหาสารพัด
---------------------------------------------------------------------------------------
ผมขอจะตีความ ต่างจาก คุณนิพัทธ์พร เพ็งแก้ว แบบนี้ครับ
ในความหมายอันลึกซึ้งนั้น ลุงจำลองกอดคอกับ สนธิ ลิ้มทองกุล(ไม่ใช่เสื้อแดง)กอดคอกันเกาะขอนไม้ลอยคว้างกลางพายุปั่นป่วน
ซึ่งในพระราชนิพนธ์มหาชนกนั้น ต้องมีความอดทนอย่างสูงกว่าคนธรรมดาทั่วไปจะทำได้และทำได้สำเร็จด้วย
หมายถึง ยุวชน เยาวชน รุ่นใหม่ๆที่กำลังเกิดมา ในความหมายถึงพายุที่อยู่กลางทะเล แล้วก่อเรื่องวุ่นวายสบสนจนทำให้ ระบอบอำมาตย์ล่มสลายลง ด้วยความจริงที่ถูกเปิดเผยและจิตใจของผ่ายอำมาตย์ที่เอาแต่โลภอย่างไม่ลดละ ทั้งๆที่รู้ว่า ภัยกำลังจะมา
ด้วยปัญหาสารพัดที่ฝ่ายอำมาตย์เก่าสร้างไว้ ได้จมไปพร้อมกับพายุนั้นแล้ว