
ถ้า “เขียวขี้ม้าบางคนไม่ให้ผ่าน” ด่านไม่พัง..
คอลัมน์ ข่าวข้นคนเข้ม
ถ้า “เขียวขี้ม้าบางคนไม่ให้ผ่าน” ด่านไม่พัง.. - หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับประจำวันพุธที่ 13 มกราคม พุทธศักราช 2564 แรม 15 ค่ำ เดือนยี่ ปีชวด ...*
อากาศหนาวยังไม่ไปไหน ประเทศไทยส่วนใหญ่ยังสำราญอยู่กับลมหนาว เท่าๆ กับไวรัส โควิด-19 ที่ยังอาละวาดหนักเกือบทุกหัวเมือง ...*
หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงให้มากที่สุด ไม่มีใครรู้ว่า “ใครคือพาหะ” การพบปะจึงเป็นการเชื้อเชิญ..
เสียมากกว่าได้ การ์ดตกทั้งๆ ที่ไม่เคยลดกฎหมายฉุกเฉิน วันนี้ยังไม่มีใคร “ขอโทษประชาชน” ด่านรั่วกำแพงพัง เพราะคุมคนราชการไม่ได้ เขียนไว้ชัดๆ ตรงนี้ ถ้า “เขียวขี้ม้าบางคนไม่ให้ผ่าน” ด่านไม่พัง ...*
อเมริกา คนอเมริกัน เข้าถึง “วัคซีนได้แบบเสรี” ใครอยากได้ฟรีก็รอวัคซีน ของรัฐ ที่นี่ประเทศไทย ให้องค์การอาหารและยาของสาธารณสุข รับรองถึงใช้ได้ ? ...*
อเมริกาเหมือนกัน วันนี้ ลอสแอง เจลิส ศพ โควิด-19 ท่วมป่าช้า ต้องหาคอนเทนเนอร์เก็บศพ ...*
อีกศพคนไทย จากไปเพราะโควิด อรทัย ท้วมสากล เตชะณรงค์ พี่สะใภ้ไพวงษ์ เตชะณรงค์ ที่แอลเอ ...*
แวบเข้าไทย ปลอดภัยจากเก็บตัว อนุทิน ชาญวีรกูล แต่ที่ไม่ปลอดภัยก็คนไทยในการดูแลของกระทรวงสาธารณสุข เพราะโควิดยังขยายอาณาเขต ...*
“พญาไม้” เขียนไว้ตรงนี้ “ต้องให้ คนไทยเข้าถึงวัคซีนเร็วที่สุด” ถ้ารอวัคซีนรัฐ หมดพฤษภาคม คลุมได้แค่ 18 ล้านคน ...*
ตลกร้าย โควิดจากจังหวัด 3 สมุทร ทั้งสมุทรสาคร-สมุทรสงคราม-สมุทรปราการ ยังไม่น่ากลัวเท่า “สมุดบัญชีไม่มีตังค์” ...*
การเมืองยังเดินวุ่น “ยุบสภา” วันนี้ไม่ใช่แค่ข่าว แต่เป็นทางออกของการเมืองไทย เพื่อไทย จะโดนแบ่งเป็น 3 พรรค และส่วนใหญ่จะไปพรรคใหม่ พรรคไทยสร้างไทย ที่มีโต้โผชื่อ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ...*
ความเป็นพรรคใหม่ พรรคกลาง ทำให้ “ไทยสร้างไทย” เข้าแทนที่ได้ทั้ง ประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย ในตำแหน่งรัฐบาล ...*
ประธานสภา สร้างปาฏิหาริย์ได้มากมาย เก้าอี้ของ ชวน หลีกภัย จะไม่ใช่ของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าการเมืองเปลี่ยนสูตร ...*
ถามไถ่กันมา ทำไม ทักษิณ ชินวัตร ถึงขยันกว่าเก่า ส่งข่าวคราวถึงคนไทย เป็นสัญญาณว่า “การเลือกตั้งใหญ่” เกิดเมื่อไหร่ ก็ได้รบนับแต่นั้น ...*
******
************
***********************************
เด็กรุ่นใหม่ของจริง คัมมิ่งซูน
https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/blunt-opinion/news_5706725
เด็กรุ่นใหม่ของจริง คัมมิ่งซูน - จากบรรยากาศวันเด็กแห่งชาติที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้งดจัดกิจกรรมตามมาตรการควบคุมโรคระบาดโควิด แต่ได้เห็นความพยายามจากฝ่ายรัฐ ผ่านทั้งการสร้างคำขวัญวันเด็ก การให้คำโอวาทต่อตัวแทนเด็ก ในลักษณะที่ยังไม่พ้นทัศนคติแบบเก่าๆ ล้าหลัง
นั่นคือ สั่งสอนให้เด็กเชื่อฟังผู้ใหญ่ ยึดมั่นในคำว่า ความดี มีคุณธรรม
ทั้งที่ในโลกความเป็นจริงนั้น เด็กยุคใหม่ก้าวไปไกลกว่าผู้ใหญ่บางกลุ่มอย่างมากโขแล้ว
ผู้ใหญ่มีแต่ต้องเปิดหูตารับฟังเด็ก เพราะสังคมยุคใหม่ ความคิดอ่านความรอบรู้ของคนรุ่นใหม่ มากมายมหาศาล
ในยุคดิจิตอล การสืบค้นข้อมูล การตรวจสอบกลั่นกรอง ทำได้ไม่ยากเย็น
และพึงรู้ว่า โลกดิจิตอลคือโลกของเด็กรุ่นใหม่จริงๆ!!
ดังนั้นมีแต่ต้องเปิดใจกว้างรับฟังเด็ก แล้วนำไปไตร่ตรอง
เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยน ถกเถียงกันได้อย่างเสมอภาค
แต่ไม่ใช่ปิดกั้น งัดกรอบกติกาและข้อหา มาหวังหยุดยั้งความคิดเด็ก
ด้วยต้องยอมรับว่า นี่ไม่ใช่ยุคเด็กเอ๋ยเด็กน้อย ความรู้ยังด้อยเร่งศึกษาอีกต่อไปแล้ว
สำหรับสังคมไทยเรา เด็กยุคใหม่ได้แสดงออกให้เห็นแล้วตลอด 5-6 เดือนที่ผ่านมา
เด็กยุคใหม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยแบบรื้อโครงสร้าง เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง มีเสรีจริง!
การเคลื่อนไหวของนักเรียน นักศึกษา ปัญญาชนคนรุ่นใหม่ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ที่ผ่านมานั้น
ได้ประกาศชัดว่า ไม่เอาการเมืองที่สร้างรัฐธรรมนูญมา เอารัดเอาเปรียบ เอื้ออำนวยให้คนกลุ่มเดียวผูกขาดอำนาจไปยาวนาน เพราะถ้ายังเป็นการเมืองที่ไม่เสรี เราก็จะไม่มีโอกาสได้คนรุ่นใหม่ๆ คิดทันโลก เข้ามาร่วมบริหารประเทศชาติ
ถ้าการเมืองไม่ดี เศรษฐกิจก็ไม่ดี ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนย่อมยากลำบาก และสังคมเช่นนี้ก็ไม่ใช่อนาคตที่ดีพอสำหรับเด็กรุ่นใหม่
ด้วยเงื่อนไขหลายประการ ทำให้ม็อบเด็กนักเรียนนิสิตนักศึกษา จำเป็นต้องหยุดพักมาระยะหนึ่ง
ระหว่างนี้รอให้โควิดซาไปสักนิดก่อน แล้วคงจะกลับมาใหม่อย่างแน่นอน
กลุ่มผู้ใหญ่ล้าหลัง ความคิดติดกรอบโลกเก่า และยังหวงแหนอำนาจกอดไม่ปล่อยอยู่ในเวลานี้ ถ้ายังไม่ปรับตัว ยอมเปิดรับฟังปัญหาเพื่อหาทางออก
ก็จงเตรียมพบกับเด็กรุ่นใหม่ของจริง ที่เป็นพลังหนักแน่นแหลมคม ในเร็วๆ นี้
อาจจะหนักแน่นร้อนแรงยิ่งกว่าช่วงปีที่ผ่านมาด้วยซ้ำ
นี่ไม่ใช่เด็กว่านอนสอนง่าย ไม่มีใครมาล้างสมอง และไม่สยบยอมกับอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น!!
วงค์ ตาวัน
******
**********
**************************
สถานการณ์โควิด ปอกเปลือกรัฐบาล
https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/relevant/news_5706946
คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
สถานการณ์โควิดในไทยมาถึง จุดที่มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม ทะลุ1หมื่นราย ไปเมื่อวันเสาร์ที่ ผ่านมา
ตัวเลขผู้ติดเชื้อกระจายไปใน 58 จังหวัด กินพื้นที่ค่อนประเทศ ทั้งยังมีแนวโน้มตัวเลขจะทะยานเพิ่มสูงขึ้น ขยายพื้นที่กว้างมากขึ้น จากการตรวจพบคลัสเตอร์ใหม่ๆ จากเดิมตลาดกลางกุ้ง มาถึงบ่อนพนัน ล่าสุดคือกลุ่มสถานบันเทิง ผับบาร์
จากการระบาดของโควิดรอบใหม่ที่เริ่มตั้งแต่ราวกลางเดือนธันวาคม 2563 ข้ามปีใหม่มาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนหนึ่งที่เป็นข่าวคู่ขนานกันมา ก็คือการเปิดโปงขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย หรือการลักลอบขนแรงงานเถื่อนข้ามประเทศ
กับเปิดโปงการมีอยู่ของบ่อนพนัน อันเป็นเหตุให้มีการสั่งย้ายนายตำรวจระดับผู้บังคับการจังหวัด 4 นาย กับระดับผู้บัญชาการภูธรภาคอีก 1 นาย ไม่นับระดับ 4-5 เสือโรงพักอีกจำนวนหนึ่ง ในห้วงเวลาไล่เลี่ยกัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงปัญหาบ่อนพนันและแรงงานผิดกฎหมาย ว่าทั้งสองเรื่องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นนานแล้ว แต่วันนี้เมื่อสถานการณ์บานปลายมาสู่เรื่องโควิด ก็จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด
คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จริงอยู่ ตรงที่ว่าปัญหามีมานานแล้ว
แต่ในขณะเอื้อนเอ่ย อีกมุมหนึ่งก็ทำให้สังคมมองเห็นอะไรบางอย่างเกี่ยวกับการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลชุดนี้
ต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมานาน 6 ปี กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 อยู่นานกว่ารัฐบาลทักษิณ ยิ่งนานกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ดังนั้นปัญหาอะไรต่างๆ ไม่ว่าจะถูก ซุกไว้ใต้พรมนานแล้ว หรือเพิ่งเกิดขึ้น ในตอนนี้
พล.อ.ประยุทธ์จะหันกลับไปกล่าวโทษรัฐบาลก่อนหน้ายุค คสช.ไม่ได้เลย
ถามว่าเกือบ 7 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดนี้ทำอะไรบ้าง นอกจากพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้รัฐบาลชุดก่อนหน้าตนเอง
ปีแรก-สองปีแรกยังพอทนฟัง แต่นี่ล่อเข้าไปเกือบ 7 ปี
การอ้างว่าเรื่องบ่อนพนัน เรื่องแรงงานผิดกฎหมาย เป็นปัญหาที่มีมานานแล้วนั้น
จึงไม่ต่างอะไรกับการประจานความด้อยประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเอง และคณะรัฐบาลชุดนี้
อย่างล่อนจ้อนหมดเปลือกนั่นเอง
มันฯ มือเสือ
5 ความเห็น
เหม็นเบื่อไอ้เห้ตู่
ตอนนี้ผมบอกได้เลยว่าราษฎรทั่วประเทศเพียงแค่รอสัญญาณเท่านั้นเองมีสัญญาณเพียงแค่ประกายไฟแป๊บๆเท่านั้นคนเรือนแสนเรือนล้านพร้อมออกไปอย่างแน่นอน